ข่าวการศึกษา - DPU ปรับหลักสูตร-เรียนรู้แบบ ?Module? สร้างจุดแข็งให้บัณฑิตเสริมทักษะตอบโจทย์เมกะเทรนด์

ชอบข่าวนี้?
7 ม.ค. 64 07:40

โพสต์โดย : Rachaya0206
IP Address : 184.22.85.100

DPUปรับหลักสูตร-เรียนรู้แบบ “Module”สร้างจุดแข็งให้บัณฑิตเสริมทักษะตอบโจทย์เมกะเทรนด์

กระแสเทรนด์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้ทุกภาคส่วนต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงสถาบันอุดมศึกษา ที่ต้องยกเครื่อง ปรับโฉมในการผลิตบัณฑิตที่มีทักษะตอบโจทย์เมกะเทรนด์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นทิศทางในอนาคต

?หลากหลายภาคส่วนได้ชี้ว่า "5 เมกะเทรนด์" ที่เกิดขึ้นในปี 2020-2030 และมีความหมายต่อธุรกิจและการเติบโตของนวัตกรรม รวมถึงเป้าหมายของแต่ละองค์กรได้แก่ 1.การเปลี่ยนแปลงอำนาจทางเศรษฐกิจจากประเทศมหาอำนาจฝั่งตะวันตก เป็นมหาอำนาจตะวันออก เช่น จีน และ อินเดีย2.ทรัพยากรขาดแคลน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมล้วนได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของมนุษย์ 3.ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่จะส่งผลให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งสปีดตัวเอง พัฒนากำลังคนให้เท่าทัน 4.การเปลี่ยนแปลงทางสังคม โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป เด็กน้อยลง ขณะที่ผู้สูงวัยมากขึ้น และ 5.การก้าวสู่การเป็นมหานครอย่างรวดเร็ว

?ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU)กล่าวว่า ในฐานะสถาบันการศึกษาซึ่งต้องปรับตัวตามเทรนด์ของโลก ด้วยเป็นหน่วยงานในการพัฒนาผลิตกำลังคนให้มีความพร้อมก้าวสู่กระแสการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการพัฒนาคณาจารย์ การนำเทคโนโลยี นวัตกรรมทางการศึกษามาใช้ เพื่อพัฒนาคนให้ตอบโจทย์กับ 5 เมกะเทรนด์ และพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

?"5 เมกะเทรนด์ เป็นสิ่งที่ทั่วโลกพบเจอเหมือนกันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและชัดเจน ส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจธุรกิจ และสังคม การใช้ชีวิตของผู้คน และวัฒนธรรมแต่ละประเทศ เมื่อก่อนGlobalizationหรือโลกาภิวัฒน์ เทคโนโลยี การสื่อสารทำให้โลกเล็กลง แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าโลกเล็กลงไปอีก ประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ต้องเดินไปด้วยกัน ซึ่งทุกประเทศจะต้องมองเศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics)ว่าประเทศจะไปในทิศทางใด เพื่อทำให้ทุกคนสามารถออกแบบอนาคตของประเทศตนเองได้"ดร.ดาริกา กล่าว

?ภาคอุดมศึกษา ต้องทำความเข้าใจถึงการเกิดขึ้นของทั้ง 5 เมกะเทรนด์ เพื่อจะนำไปสู่การปรับตัว ปรับหลักสูตร กำหนดเป้าหมาย การผลิตทรัพยากรบุคคลของประเทศให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในปัจจุบันและโลกอนาคต แม้หลักสูตรที่เปิดสอนอยู่ขณะนี้จะยังใหม่ แต่ผ่านไปปีเดียวก็อาจจะล้าหลังได้

?อธิการบดีDPUกล่าวว่า มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในเรื่องการลดเนื้อหาของการเรียนรู้แต่เพิ่มทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากเด็กรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงข้อมูล เนื้อหาที่มีอยู่มากมายและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองสถาบันการศึกษาจึงต้องเป็นพื้นที่ในการพัฒนาทักษะ สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับพวกเขาอีกทั้งพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ การเรียนเป็นสาขา คณะ รายวิชาอาจจะเหมาะสมในบางสาขาและคณะเท่านั้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงต้องปรับการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยให้นักศึกษาสามารถเลือกในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ และที่สำคัญมหาวิทยาลัยต้องทำให้ผู้เรียนได้ค้นหาตัวตนและเติมเต็มทักษะที่จำเป็นกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพียงการให้ความรู้แต่เป็นการให้อาวุธ ฝังเป็นDNAที่จะติดตัวพวกเขาตลอดไป

?"DPUได้ปรับหลักสูตรมาหลายปี โดยเปลี่ยนจากวิชาศึกษาทั่วไป เป็นรายวิชาที่จะเติมเต็มทักษะศตวรรษที่ 21 อัตลักษณ์หรือDNAของเด็กDPUเราเรียกว่าDPU Coreซี่งจะมีทั้งหมด 6 ทักษะ คือ ทักษะการเป็นผู้ประกอบการที่ไม่ใช่เพียงขายของเป็น แต่ต้องรู้จักกับการแก้ปัญหาขององค์กรที่เกิดขึ้น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการคิดวิเคราะห์ และ แก้ปัญหา ทักษะการคิดสร้างสรรค์ทักษะการทำงานเป็นทีม และ ทักษะความรอบรู้เรื่องเทคโนโลยีขณะเดียวกันในส่วนของการเรียนการสอน จะเน้นให้ความรู้ สร้างสมรรถนะ เน้นบูรณาการ เรียนรู้จากการปฏิบัติ การแก้ปัญหาจริง"ดร.ดาริกา กล่าว

?ทั้งนี้DPUได้มีการปรับหลักสูตร ให้เป็นการเรียนแบบโมดูล (Module)โดยเป็นกลุ่มวิชาซึ่งมาจากหลากหลายคณะ อาจารย์จากหลายคณะร่วมกันสอนแบบบูรณาการ นักศึกษาสามารถเลือกเรียนเป็นกลุ่มวิชาที่ต้องการได้ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่ตนเองเลือกเรียนนั้น จะนำไปสู่การประกอบอาชีพอะไร หรือเรียนแล้วสามารถทำอะไรได้บ้าง อย่างไรก็ดี การจัดหลักสูตรแบบโมดูลยังคงยึดตามกรอบเกณฑ์มาตรฐาน และโครงสร้างตามหลักวิชาชีพ

?ดร.ดาริกา กล่าวด้วยว่า การปรับหลักสูตรจะต้องทำอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจไม่ทัน เพราะอนาคตเปลี่ยนเร็วมาก ขณะนี้ 1 ปี ต้องเปลี่ยนหลักสูตรแล้ว โดยหลักสูตรในรูปแบบโมดูลหรือกลุ่มวิชาที่ทางมหาวิทยาลัยดำเนินการ เป็นไปตาม 5 เมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นโครงสร้างหลักสูตรมีความยืดหยุ่น ของเนื้อหา รูปแบบการเรียนการสอนต้องสอดคล้องกับเทรนด์โลกและพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ อนาคตหลายคนอาจจะอยากหรือไม่อยากเรียน 4 ปี ในมหาวิทยาลัย แต่DPUยังคงพัฒนาหลักสูตรโดยทำเป็นจิ๊กซอร์โมดูลให้นักศึกษาได้เลือกเรียนจะทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ศาสตร์หลากหลายจากคณาจารย์หลายคณะ ซึ่งจะตอบโจทย์การเรียนรู้ที่เหมาะสมในแต่ละบุคคลภายใต้ห้องเรียนไฮบริด หรือห้องเรียนแห่งการปฏิบัติซึ่งจะเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน ค้นหาคำตอบ แก้ปัญหาร่วมกัน

?"อยากให้นักศึกษาเลือกเรียนรู้ตามความสนใจความถนัด ทุกคนใช้การเรียนรู้ของตนเองในการคิดวิเคราะห์หรือเรียนรู้ได้ด้วยตนเองผ่านออนไลน์ ขณะที่ได้มาฝึกปฏิบัติก็ร่วมแก้ปัญหาในห้องเรียนด้วยกัน เพราะจะให้เรียนแบบออนไลน์ทั้งหมดคงไม่ได้ โดยเฉพาะวิชาปฏิบัติ แต่การเรียนออนไลน์สามารถนำมาบูรณาการให้เกิดประโยชน์ในการเรียนรู้"อธิการบดีDPUกล่าว

?ดร.ดาริกา กล่าวในตอนท้ายว่า การมาเรียนที่DPUนอกจาก รูปแบบการเรียนแบบModuleและDPU Coreที่จะปลูกฝังทักษะอันจะทำให้นักศึกษาสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบแล้ว นักศึกษารุ่นใหม่จะเข้าใจถึงการปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ควบคู่กับการค้นหาตัวเอง เติมเต็มทักษะในสิ่งที่ตัวเองขาดสำหรับงานDPU Open Houseเปิดบ้านมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ในปีนี้ เราได้มีการปรับรูปแบบจากเดิมเป็นการจัดงานแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดCOVID-19โดยจะมีการอัพเดตเทรนด์การศึกษายุคใหม่ที่สอดคล้องกับเทรนด์โลกและอาชีพมาแรงแห่งอนาคต เพื่อให้นักเรียน ระดับมัธยมปลาย ปวช. หรือ ปวส. ได้เห็นแนวทางในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยและสามารถอยู่ได้ทุกยุคของการเปลี่ยนแปลง

ติดตามอัพเดทเทรนด์การศึกษายุคใหม่DPU Open HouseOnlineภายใต้ธีม“DPU MEGA TRENDSอยู่เป็นทุกการเปลี่ยนแปลง” ระหว่างวันที่ 12-13มกราคม 2564 นี้รับชมliveสดได้ที่Facebookมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์DPUตั้งแต่เวลา9.00 -16.00น.สัมผัสบรรยากาศจริงของแต่ละคณะ พบรุ่นพี่และศิษย์เก่าที่จะมาแชร์ประสบการณ์การเรียน และการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแบบExclusiveพลาดไม่ได้กับทุนการศึกษาพิเศษ!!เฉพาะในLiveเท่านั้น ลงทะเบียนเข้าชมLiveสดล่วงหน้า ลุ้นรับiPadโดยสามารถลงทะเบียนผ่านไลน์@dekdpu

ติดตาม PR.News Thailand

ส่วนสมาชิก

Big Sale! ลดแรงทุก วันจันทร์ และ วันศุกร์ ราคาพิเศษ ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ พร้อมเผยแพร่ไปยังสื่อออนไลน์ในเครือของเรา เพียง 450 บาท เท่านั้น วันนี้ - 30 พฤศจิกายน 2567

ผลสลากกินเเบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 16 พฤศจิกายน 67
รางวัลที่ 1 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว เลขหน้า 3 ตัว
187221 38 980 547 036 923
เงินรางวัล รางวัลที่ 1 : รางวัลละ 6,000,000 บาท เลขท้าย 2 ตัว : 1 รางวัลๆ ละ 2,000 บาท เลขท้าย 3 ตัว : 2 รางวัลๆ ละ 4,000 บาท เลขหน้า 3 ตัว : 2 รางวัลๆ ละ 4,000 บาท | ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล lotterythai.in.th

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

Klook.com