ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 18 กุมภาพันธ์ 2568 /PRNewswire/ -- ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ (Dubai International Financial Centre) หรือดีไอเอฟซี (DIFC) ซึ่งเป็นศูนย์การเงินชั้นนำระดับโลกในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ (MEASA) ยังคงเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของดูไบในฐานะเมืองหลวงด้านบริการทางการเงินของภูมิภาคตลอดปีที่ 20 ของการดำเนินงาน
ปัจจุบัน DIFC มีบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ 6,920 แห่ง เพิ่มขึ้นจาก 5,523 แห่งในปี 2566 โดยดึงดูดการจดทะเบียนใหม่ได้ 1,823 ราย
รายได้รวมประจำปี 2567 อยู่ที่ 1.78 พันล้านเดอร์แฮม (484 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 1.33 พันล้านเดอร์แฮม (363 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เทคโนโลยีและนวัตกรรมยังคงเป็นภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีบริษัท 1,245 แห่งในปี 2567
จำนวนบุคลากรเพิ่มขึ้นเป็น 46,078 คน เพิ่มขึ้น 10% โดยมีบุคลากรในสาย AI ฟินเทค และนวัตกรรม รวม 4,243 คน
DIFC เป็นศูนย์รวมบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินจำนวนมากที่สุดในภูมิภาค ประกอบด้วยบริษัทด้านธนาคารและตลาดทุนกว่า 260 แห่ง บริษัทบริหารความมั่งคั่งและสินทรัพย์ 410 แห่ง เฮดจ์ฟันด์ 75 แห่ง และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยและการประกันภัยต่อ 125 แห่ง นอกจากนี้ยังมีบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 70 แห่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศนี้ด้วย
ปัจจุบัน DIFC มีธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบการเงินโลก (G-SIB) 27 แห่งจากทั้งหมด 29 แห่ง ผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับท็อป 10 ของโลก 8 ราย นายหน้าประกันภัยชั้นนำ 5 ราย และนายหน้าซื้อขายระหว่างดีลเลอร์ระดับท็อป 10 เมื่อวัดจากปริมาณการซื้อขายอีก 5 ราย
ณ สิ้นปี 2567 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินดูไบ (DFSA) กำกับดูแลกิจการมากกว่า 900 แห่ง
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวใน DIFC มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 600 เป็นกว่า 800 แห่ง โดย 120 ตระกูลและบุคคลที่มีความมั่งคั่งชั้นนำในชุมชนนี้บริหารสินทรัพย์รวมกันมากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ขณะที่การใช้โครงสร้างแบบ Foundation เพิ่มขึ้นเป็น 671 ราย
ด้าน Dubai AI Campus ดึงดูดบริษัทได้มากกว่า 120 แห่งในช่วง 6 เดือนแรกของการดำเนินงาน
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่ DIFC เป็นเจ้าของและบริหารมีอัตราการใช้อาคารสูงถึง 99.8% และจะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1.6 ล้านตารางฟุต เมื่อเปิดตัวโครงการ DIFC Square, Innovation Two และ Immersive Tower by DIFC
มีผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรของ DIFC Academy จำนวน 9,156 คน รวมเป็น 41,456 คนนับตั้งแต่ก่อตั้ง
ฯพณฯ Essa Kazim ผู้ว่าการ DIFC กล่าวว่า "DIFC มีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของดูไบและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามวาระเศรษฐกิจดูไบ (D33) โดย DIFC จะยังคงเดินหน้าสร้างพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อเสริมสร้างชื่อเสียงของเราในการขับเคลื่อนอนาคตทางการเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น"
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2622158/DIFC_20th_Anniversary.jpg
แสดงความคิดเห็น