งานสำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและนวัตกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก 

มาเก๊า, 22 มิถุนายน 2567 /PRNewswire/ -- งานประชุมว่าด้วยการลงทุนและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานนานาชาติครั้งที่ 15 (15th International Infrastructure Investment and Construction Forum: IIICF) ซึ่งร่วมกันจัดงานโดยสมาคมผู้รับเหมานานาชาติแห่งประเทศจีน (China International Contractors Association: CHINCA) และสถาบันส่งเสริมการค้าและการลงทุนมาเก๊า (Macao Trade and Investment Promotion Institute: IPIM) จัดขึ้นที่มาเก๊าเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567

งานประชุม IIICF ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานส่งเสริมความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกชั้นนำ และเป็นเวทีนานาชาติที่สำคัญเพื่อส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมถึงกันอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) งานประชุมในปีนี้สามารถดึงดูดผู้นำในอุตสาหกรรมกว่า 3,500 คนจากกว่า 70 ประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนจากองค์กร 800 แห่งให้เข้าร่วมงาน

การประชุมปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ "การเชื่อมโยงระบบดิจิทัลเพื่อนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" (Green Innovative Digital Connectivity) โดยมีวิทยากรกว่า 200 คนร่วมสำรวจอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตนี้ และเข้าร่วมการสนทนาหัวข้อใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างน่าสนใจและชวนคิด ซึ่งประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน วิวัฒนาการทางดิจิทัล การลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) การบูรณาการระบบดิจิทัลของโครงการวิศวกรรมระหว่างประเทศ การแก้ไขข้อพิพาท การบรรเทาความเสี่ยง และการเชื่อมถึงกันของโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค การสนทนาแลกเปลี่ยนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อมอบความเชี่ยวชาญและโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมของจีน เพื่อช่วยให้เกิดการร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศ กระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าในการร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานระหว่างจีนและประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และส่งเสริมให้เกิดความเห็นพ้องและเข้าใจการพัฒนาอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่ยั่งยืนอย่างลึกซึ้ง

งานปีนี้ขยายพื้นที่จัดแสดงเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบูธจัดแสดงกว่า 90% ถูกปรับแต่งตามความต้องการของผู้จัดแสดงในงาน ทั้งนี้ งานแสดงสินค้าครั้งนี้นำเสนอสี่แง่มุมสำคัญ ได้แก่

การมุ่งเน้นปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ: การจัดงานครั้งนี้เน้นนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก โดยจัดแสดงความก้าวหน้าล่าสุดด้านพลังงานสะอาด การก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมวัสดุประหยัดพลังงาน เทคนิคการบำบัดน้ำเสีย และการนำแนวคิดเมืองอัจฉริยะไปดำเนินการอย่างประสบความสำเร็จ การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี: เน้นการแสดงหุ่นยนต์ก่อสร้าง อุปกรณ์ตรวจสอบติดตามและเซนเซอร์อัจฉริยะ ระบบตั้งเวลาอัจฉริยะ เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ วิธีการก่อสร้างอัจฉริยะ วัสดุเชิงวิศวกรรมแบบใหม่ และโซลูชันการก่อสร้างสำเร็จรูป การบูรณาการดิจิทัลและการเสริมสร้างความอัจฉริยะ: การจัดแสดงโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการประยุกต์ใช้บิ๊กดาต้า การประมวลผลคลาวด์ และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT) ในโครงการวิศวกรรมระหว่างประเทศอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ ยังแสดงแนวปฏิบัติใหม่ล่าสุดเพื่อเปลี่ยนแปลงไปใช้ระบบดิจิทัลในการจัดการโครงการและการพัฒนาเมือง การเชื่อมถึงกันและความสำเร็จจากความร่วมมือ: เน้นที่โครงการสำคัญที่แสดงถึงการเชื่อมถึงกันของโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก และการเข้าร่วมดำเนินการก่อสร้างระหว่างจีนกับประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ในเป้าหมายของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง โดยประกอบด้วยท่าเรือ ทางหลวง สะพาน ทางรถไฟ สนามบิน และโครงการพัฒนาเมืองต่าง ๆ ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ "China Construction"

งานจัดแสดงที่จัดขึ้นพร้อมกับงานประชุมในปีนี้มีประสิทธิภาพในระดับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยต่อยอดจากงานจัดแสดงปีที่แล้วที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ ในงานครั้งนี้มีผู้จัดแสดงและองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมเป็นจำนวนมากกว่าที่เคย ซึ่งประกอบด้วยบริษัทวิศวกรรมชั้นนำของอุตสาหกรรม ได้แก่ China Communications Construction, China State Construction Engineering Group และ China Railway Construction เป็นต้น บริษัทเหล่านี้เป็นที่รู้จักด้านความสามารถทางเทคโนโลยีที่เหนือกว่าและการบูรณาการทรัพยากรที่แข็งแกร่ง รวมทั้งยังมีผู้ผลิตอุปกรณ์และการสื่อสารชั้นนำ เช่น หัวเว่ย (Huawei) แคทเธอร์พิลลาร์ (Caterpillar) และลิวกง (LiuGong) ที่เป็นตัวแทนเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและความอัจฉริยะทางดิจิทัลระดับแนวหน้า นอกจากนี้ ภายในงานยังมีคณะผู้แทนจากบริษัทท้องถิ่นที่จัดตั้งโดยหน่วยงานธุรกิจจากหลายจังหวัด เพื่อเพิ่มความลึกและหลากหลายของงานจัดแสดงครั้งนี้

ปีนี้ถือเป็นโอกาสครบรอบ 15 ปีของงานประชุมว่าด้วยการลงทุนและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานนานาชาติที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมา งานนี้สามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมจากทั่วโลกได้กว่า 30,000 คน รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งระดับรัฐมนตรีขึ้นไปกว่า 570 คน และผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานระดับนานาชาติมากกว่า 180 โครงการ และมีมูลค่าสัญญารวมเกินกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือเชิงปฏิบัติเพื่อการลงทุนและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระหว่างบริษัทวิศวกรรมของจีนและประเทศพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง