ฉางโจว, จีน, 29 พฤษภาคม 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- เมื่อไม่นานนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในมณฑลซานตง (Shandong) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแรกเริ่มในภาคอุตสาหกรรมนี้ ได้ประสบกับปัญหาข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ล้าสมัย ทั้งนี้เพื่อจัดการกับปัญหาด้านการดำเนินงานและการบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าที่ลดลง TrinaTracker ผู้ให้บริการโซลูชันติดตามอัจฉริยะชั้นนำในเครือบริษัท Trinasolar จึงได้ใช้ความเชี่ยวชาญที่กว้างขวางและเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะขั้นสูงของตนอย่าง Smart Control System เพื่อดำเนินการปฏิรูปเทคโนโลยีครั้งสำคัญ

หัวใจสำคัญของการอัปเกรดครั้งนี้คือการแทนที่ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้าสมัยของโรงไฟฟ้าด้วย TCU และ NCU ที่ TrinaTracker พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาอุปสรรคด้านการสื่อสาร และยกระดับกลไกการป้องกันความปลอดภัย กลยุทธ์การจัดเก็บพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันของ TrinaTracker จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อมีลมแรงพัดผ่าน โดยจะปรับตัวติดตามอย่างชาญฉลาดตามข้อมูลอุตุนิยมวิทยาแบบเรียลไทม์ เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ TCU ยังทำหน้าที่ตรวจสอบภาวะมอเตอร์โอเวอร์โหลดและเปิดใช้งานโปรแกรมการจัดเก็บพลังงาน เพื่อป้องกันความเสียหายทางโครงสร้างที่เกิดจากกระแสไฟเกิน และรับประกันความเสถียรและความปลอดภัยในระยะยาว

TrinaTracker ได้รวมอัลกอริธึมอัจฉริยะ SuperTrack เพื่อปลดล็อกศักยภาพในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยอัลกอริทึมการแก้ปัญหาแบบย้อนรอยอัจฉริยะ (Smart Backtracking Algorithm หรือ SBA) และอัลกอริทึมการติดตามอัจฉริยะ (Smart Tracking Algorithm หรือ STA) โดย SBA จะใช้โมเดลจำลองเงาแดดขนาดเล็กที่ได้รับสิทธิบัตรในการสร้างแผนที่ 3 มิติ โดยอาศัยข้อมูลภูมิประเทศ ช่วยให้สามารถเรียนรู้ปรับการทำงานเองได้แบบอัตโนมัติสำหรับการตรวจจับพารามิเตอร์แบบเรียลไทม์ พร้อมดึงศักยภาพของตัวติดตามออกมาใช้ได้อย่างสูงสุด สำหรับ STA จะใช้โมเดลการแผ่รังสีแบบสองหน้า (Bifacial Irradiance Model) ในการคำนวณหาองศาที่เหมาะสมของตัวติดตามสำหรับสภาพอากาศที่มีเมฆและฝน และช่วยลดการหมุนและยืดอายุการใช้งาน

การนำแพลตฟอร์ม Trina Smart Cloud มาใช้ ได้ปฏิวัติแนวทางการปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาแบบเดิม ๆ อย่างสิ้นเชิง แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้สามารถติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ ตรวจจับและแจ้งเตือนข้อผิดพลาดได้ทันที และมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การแบ่งปันข้อมูล แผนที่ดิจิทัล และการวินิจฉัยสุขภาพ เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม และรับประกันความสมบูรณ์ของโรงไฟฟ้า

บริษัท O&M ที่ดูแลโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้ยกย่อง "กลยุทธ์การปฏิรูปทางเทคนิคที่ครอบคลุม" ของ TrinaTracker ที่ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดในการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ และรับประกันการทำงานของระบบที่แข็งแกร่งผ่านการผสานรวมการติดตามระบบแบบดิจิทัลและเทคโนโลยีการติดตามอัจฉริยะ

ในอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นแรงผลักดันในการขับเคลื่อนภาคส่วนนี้ให้ก้าวไปข้างหน้า ระบบควบคุมอัจฉริยะของ TrinaTracker ได้ถูกนำไปใช้ทั่วโลก โดยมีสัญญามากกว่า 6.2 กิกะวัตต์ (GW) ใน 16 ประเทศและภูมิภาค บริษัทมุ่งมั่นกับแนวทางที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยปรับปรุงและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการภาคสนามและความร่วมมือ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการพัฒนาไปสู่ระบบพลังงานรูปแบบใหม่