เซี่ยงไฮ้ 22 ธันวาคม 2567 /PRNewswire/ -- "Automotive Outlook 2040" โดย Roland Berger ได้ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์: รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดล้วนจะเข้ามาครองตลาดภายในปี 2583 โดย JETOUR จะเปิดตัว T2 i-DM รุ่นไฮบริดที่ใช้โมเดล T2 เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาด และความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งเป็นรุ่นที่สานต่อสมรรถนะที่เหนือชั้นของ T2 และได้รับการอัปเกรดระบบส่งกำลัง พร้อมกับมอบตัวเลือกใหม่ที่ผสานรวมความสนุกในการขับขี่เข้ากับการปกป้องสิ่งแวดล้อม
T2 i-DM เป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของ JETOUR ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี i-DM (โหมดคู่แบบอัจฉริยะ) สำหรับการสลับโหมดอัจฉริยะ พร้อมกับรวมการประหยัดพลังงาน สมรรถนะ และความปลอดภัยของแบตเตอรี่ในระดับสูงเข้าด้วยกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะแบบไดนามิกที่ยอดเยี่ยม โดยคำนึงถึงความประหยัดและความปลอดภัยในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งคาดว่าจะจุดประกายเทรนด์ใหม่ด้านการเดินทางในทั่วโลก
T2 i-DM ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูง 1.5TGDI รุ่นที่ห้า ซึ่งผสานหกเทคโนโลยีหลักเข้าด้วยกัน รวมถึง ระบบวัฏจักรมิลเลอร์เชิงลึก และระบบการเผาไหม้อัจฉริยะสมรรถนะสูง i-HEC รุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพอุณหภาพสูงที่สุดถึง 44.5% ทั้งยังมีกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร พร้อมส่งมอบแรงขับอันทรงพลังในสถานการณ์ต่างๆ ระบบส่งกำลังแบบไฮบริด 3 สปีด DHT ได้ใช้โครงสร้างมอเตอร์คู่ 3 สปีด พร้อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านแรงขับและความประหยัด การผสมผสานอัตราทดเกียร์ 3 ระดับกับการออกแบบมอเตอร์คู่ช่วยให้สามารถสลับโหมดการทำงาน 9 โหมดไปมาได้อย่างยืดหยุ่นที่ครอบคลุมสถานการณ์การขับขี่ทุกรูปแบบ ด้วยเหตุนี้เอง T2 i-DM ที่ใช้งานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจึงสามารถส่งมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นด้วยระบบรวมกำลังสูงสุด 280 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดรวม 610 นิวตันเมตร ซึ่งส่งมอบขุมพลังที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถในการสำรวจกลางแจ้งของ T2 i-DM ได้อย่างมาก
T2 i-DM รุ่นไฮเอนด์ได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ไฮบริดขนาดใหญ่ 26.7kWh ซึ่งมาพร้อมกับการป้องกันหลายรายการ รวมถึง การป้องกันการชน การป้องกันน้ำเข้า การป้องกันขณะชาร์จ และการป้องกันไฟฟ้าแรงสูง โดยสามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้สูงสุด 139 กม. มีระยะครอบคลุมมากกว่า 1,000 กม. และมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 0.8 ลิตร/100 กม. เพื่อส่งมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ไร้กังวล นอกจากนี้ T2 i-DM ยังโดดเด่นด้วยฟังก์ชันจ่ายไฟภายนอก 3.3kW ที่รองรับเครื่องใช้ในบ้านและในครัวหลายรายการ ระบบปรับอากาศขณะจอดสามารถทำงานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์
JETOUR T2 i-DM มีกำหนดการเปิดตัวที่กาตาร์ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ โดย JETOUR T2 ได้ครองยอดขายรถประเภทเอสยูวีออฟโร้ดขนาดเล็กอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศในปีนี้ รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย อิรัก และกาตาร์ ซึ่งเมื่อดูจากความนิยมของ T2 และเทคโนโลยี i-DM ของ JETOUR แล้ว สมรรถนะของ JETOUR T2 i-DM ก็เป็นที่น่าคาดหวังอย่างยิ่ง
แสดงความคิดเห็น