นครฉงชิ่งจัดเวทีความร่วมมือยุทธศาสตร์ มุ่งผลักดันการขยายเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะ...

ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์

พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์ x ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์

ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - นครฉงชิ่งจัดเวทีความร่วมมือยุทธศาสตร์ มุ่งผลักดันการขยายเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลสายใหม่ทางตะวันตก

ชอบข่าวนี้?

ฉงชิ่ง, จีน, 16 พ.ย. 2567 /PRNewswire/ -- รายงานจาก Global Times:

เมื่อวันที่ 12-13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การประชุมร่วมระหว่างมณฑลครั้งที่ 4 ว่าด้วยการให้คำปรึกษาและความร่วมมือในเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลสายใหม่ทางตะวันตก ได้มีขึ้น ณ นครฉงชิ่ง พร้อมกับงานสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ เวทีการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลระหว่างประเทศสายใหม่ ประจำปี 2567 การประชุมความร่วมมือด้านกฎหมายจีน-อาเซียน ประจำปี 2567 การประชุมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จีน (ฉงชิ่ง) - อาเซียน ประจำปี 2567 และงานแสดงสินค้าโลจิสติกส์นานาชาติเส้นทางเชื่อมโยงใหม่ทางบก-ทะเล ประจำปี 2567

การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยผู้บริหารเทศบาลนครฉงชิ่งได้รายงานความคืบหน้าในการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยง และวางแผนขั้นตอนการดำเนินงานในอนาคต ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของเส้นทางนี้ รวมถึงการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มความร่วมมือที่เชื่อมโยงเมืองสำคัญในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกับเมืองชายฝั่งและเมืองชายแดนทางตอนใต้ ผู้เข้าร่วมประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างการบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมและซัพพลายเชนตามแนวเส้นทาง พร้อมเร่งพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลดิจิทัลสายใหม่ ซึ่งนำไปสู่ฉันทมติเกี่ยวกับทิศทางและกลยุทธ์ในอนาคต

สำหรับเวทีการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลระหว่างประเทศสายใหม่ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด "ขับเคลื่อนความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้วยการเปิดกว้าง รองรับรูปแบบใหม่ผ่านเส้นทางเชื่อมโยงสายใหม่" นั้น ได้เผยให้เห็นความสำเร็จหลายประการ อาทิ การเปิดตัวรายงานประจำปี 2567 ของศูนย์วิจัยการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลสายใหม่ทางตะวันตก และการเปิดตัวดัชนีราคาเส้นทางเชื่อมโยงฉงชิ่ง นอกจากนี้ ในเวทีดังกล่าวยังมีพิธีเปิดศูนย์วิจัยการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลสายใหม่ทางตะวันตก และสถาบันวิจัยการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลสายใหม่ รวมทั้งได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงกิจการร่วมค้าฉบับที่ 3 เพื่อเพิ่มทุนและขยายสัดส่วนหุ้นสำหรับบริษัท New Land-Sea Corridor Operation Co., Ltd. ด้วย

การประชุมร่วมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้แทนกระทรวงและคณะกรรมาธิการสำคัญ รัฐวิสาหกิจส่วนกลาง และเจ้าหน้าที่จากมณฑล เขตปกครองตนเอง และเทศบาลนครต่าง ๆ ตามแนวเส้นทางเชื่อมโยง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารจากเขต อำเภอ หน่วยงานเทศบาล และบริษัทต่าง ๆ ในนครฉงชิ่ง ผู้เข้าร่วมงานต่างชื่นชมคณะผู้จัดงานที่เตรียมการอย่างพิถีพิถัน ในการจัดเวทีการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลระหว่างประเทศสายใหม่ในครั้งนี้

นครฉงชิ่งเป็นผู้ริเริ่ม ผู้ผลักดัน และผู้พัฒนารายหลักเบื้องหลังเส้นทางเชื่อมโยงนี้ โดยได้ดำเนินการตามแนวทางของการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) และการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 อย่างแข็งขัน นครฉงชิ่งได้ใช้ประโยชน์จากจุดยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการดำเนินงาน พร้อมทั้งสร้างกลไกความร่วมมือที่เข้มแข็งร่วมกับมณฑล เขตปกครองตนเอง และเทศบาลนครที่เข้าร่วมโครงการ ความร่วมมือนี้มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและขีดความสามารถในการดำเนินงานของเส้นทางเชื่อมโยงให้ก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เส้นทางเชื่อมโยงนี้ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 ได้ขยายครอบคลุมพื้นที่ 156 แห่งใน 73 เมือง ครอบคลุม 18 มณฑล เขตปกครองตนเอง และเทศบาลนครในภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับท่าเรือ 542 แห่งใน 125 ประเทศและภูมิภาค

ด้านสำนักงานท่าเรือและโลจิสติกส์นครฉงชิ่งได้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้น 4 ด้านหลักด้วยกัน ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถในการสนับสนุนการดำเนินงาน ส่งเสริมการบูรณาการระหว่างภาคโลจิสติกส์และการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เร่งสร้างเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลดิจิทัล และยกระดับคุณภาพการบริการตลอดเส้นทางเชื่อมโยงนี้


ที่มา : ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - นครฉงชิ่งจัดเวทีความร่วมมือยุทธศาสตร์ มุ่งผลักดันการขยายเส้นทางเชื่อมโยงทางบก-ทะเลสายใหม่ทางตะวันตก https://www.prnasia.com/asia-story/archive/4558039_TH58039_10

ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านข่าวของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์

แสดงความคิดเห็น