Segway-Ninebot ยังคงมุ่งมั่นต่อยานพาหนะไมโครโมบิลิตี้ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
ปักกิ่ง, 25 ตุลาคม 2567 /PRNewswire/ -- ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2567 Segway-Ninebot สามารถทำยอดขาย eKickScooter ทั่วโลกได้เกินกว่า 13 ล้านคันอย่างประสบความสำเร็จ โดยตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในตลาดสกูตเตอร์ระดับโลก รายงานการเงินประจำปี 2566 ของบริษัทเปิดเผยว่า eKickScooter ของบริษัทสร้างรายได้ถึง 3.78 พันล้านหยวน (537 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ในการเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ให้บริการยานพาหนะประเภทไมโครโมบิลิตี้ (micromobility) ที่ใช้ร่วมกันกว่า 240 รายทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเทคโนโลยีการเดินทางระยะสั้นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Segway-Ninebot มอบประสบการณ์การเดินทางที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ใช้ สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมสกูตเตอร์ไฟฟ้าระดับโลก
"นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2555 Segway-Ninebot บริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งนี้มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้งานมาโดยตลอด" Luke Gao ประธานของ Segway-Ninebot กล่าว
บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านยานพาหนะไมโครโมบิลิตี้ ด้วยการทำธุรกิจในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ปัจจุบัน Segway-Ninebot มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ eKickScooter ระบบอัจฉริยะอย่างครอบคลุม ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการและสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่รุ่น C series ที่เหมาะสำหรับเด็กไปจนถึงรุ่น E series ที่เรียบหรู รุ่น F series ที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทางเป็นประจำ รุ่น G series ที่ใช้งานได้หลากหลายสำหรับการผจญภัยบนทุกสภาพถนน รุ่น ZT series ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการขับขี่ในพื้นที่นอกถนน และรุ่น GT series สำหรับการขับขี่ที่ดีเยี่ยมที่สุด
การนำแนวทางแบบเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเข้ามาใช้เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี
การลงทุนอย่างต่อเนื่องด้านการวิจัยและพัฒนามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบริษัทในภาคเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถบรรลุความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีและคงรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ได้ Segway-Ninebot ผู้นำในสาขาไมโครโมบิลิตี้เชิงนวัตกรรม มีทีมเทคนิคที่แข็งแกร่งและความสามารถสูงคอยสนับสนุน ณ เดือนมิถุนายน 2567 ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,400 คน คิดเป็นเกือบ 40% ของพนักงานทั้งหมด ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องและความมุ่งมั่นของทีมวิจัยที่มีความสามารถ Segway-Ninebot สามารถเป็นเจ้าของสิทธิบัตรด้านทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด 4,985 ฉบับทั่วโลกในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการสร้างนวัตกรรมที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
Segway-Ninebot ได้รับการยอมรับใน "ตารางคะแนนการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรม ปี 2566" ซึ่งเผยแพร่โดยสหภาพยุโรปเมื่อสิ้นปีที่แล้ว
เกี่ยวกับผลงานความสำเร็จครั้งนี้ Zhilei Ding รองผู้จัดการทั่วไปของหน่วยธุรกิจ Micro Mobility ใน Segway-Ninebot กล่าวว่า "eKickScooter ของเรามีเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรกว่า 800 รายการซึ่งได้ถูกผสานรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ใช้ โดยเน้นที่ความมั่นคง ความปลอดภัย ความสะดวกในการใช้งาน และความสบาย"
ด้วยนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนาในภาคสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาหลายปี Segway-Ninebot ได้บรรลุความก้าวหน้าครั้งสำคัญในส่วนประกอบสำคัญต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ แพลตฟอร์มโครงสร้าง ยาง ระบบกันกระแทก และการโต้ตอบที่ชาญฉลาด ที่สำคัญคือ การพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีหลัก เช่น RideyLONG™, Segride™ และเทคโนโลยี Find My ของ Apple ที่ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งผู้นำของบริษัทในภาคธุรกิจนี้
RideyLONG™ ปฏิวัติประสิทธิภาพแบตเตอรี่ด้วยการผสานเทคโนโลยียางขั้นสูง มอเตอร์แบบไร้แปรงที่มีประสิทธิภาพสูง และการปรับจูนการควบคุมอิเล็กทรอนิกส์แบบละเอียดเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน โซลูชันนวัตกรรมนี้ช่วยรับรองว่าใช้แบตเตอรี่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ถึง 20% โดยประมาณเมื่อเทียบกับระบบทั่วไป ช่วยให้ eKickScooter ใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่ากันเพื่อเดินทางได้ไกลขึ้น ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางที่ราบรื่น แม้ในเส้นทางที่ยาวขึ้นหรือในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย นอกจากนี้ eKickScooter หลายรุ่นของ Segway-Ninebot ยังได้รับการรับรองจากองค์กรอิสระจาก TÜV Rheinland ในด้าน "ระยะการเดินทางที่ความเร็วสูงสุด" Segride™ เทคโนโลยีการบังคับเลี้ยวและการรักษาสมดุลของ eKickScooter ที่ทันสมัยและที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Segway-Ninebot โดยผสานระบบ TCS (Traction Control System) แบบเกรดยานยนต์เพื่อปรับปรุงเกณฑ์ประสิทธิภาพหลัก เช่น ระยะห่างระหว่างจุดสัมผัสล้อหน้ากับพื้นและจุดที่ล้อหรือแนวบังคับเลี้ยวตามมา (trailing distance) มุมของคอแฮนด์ และการหน่วงการบังคับเลี้ยวให้ดียิ่งขึ้น การพัฒนาที่ก้าวล้ำนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการบังคับเลี้ยวของ eKickScooter และลดการสั่นสะเทือนของแฮนด์ได้อย่างมาก จึงเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงโดยรวมขณะขับขี่และการบังคับเลี้ยว แม้ขณะใช้ความเร็วสูงและบนสภาพถนนที่เป็นอุปสรรค eKickScooter ที่ติดตั้ง Segride™ ก็สามารถรักษาความมั่นคงและการควบคุมได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้ได้อย่างมาก ในปี 2567 เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกใน eKickScooter รุ่น ZT3 Pro ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Segway ติดตั้งมาพร้อมกับเทคโนโลยี Find My ของ Apple ในรุ่น Max G2 ของ Segway-Ninebot ซึ่งเป็นรุ่นแรกในตลาดที่ผสานเทคโนโลยี Find My ของ Apple โดย Segway-Ninebot ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม eKickScooter หลังจากประสบความสำเร็จได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มงวดจาก Apple และสิทธิ์การใช้งานเทคโนโลยี การประยุกต์ใช้นวัตกรรมทันสมัยในสกูตเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุตำแหน่ง eKickScooter ของตนได้อย่างแม่นยำผ่านแอปที่ใช้งานเฉพาะ ซึ่งทำให้อุปกรณ์สามารถปล่อยเสียงเตือนเพื่อช่วยให้ระบุตำแหน่งรถในที่จอดได้อย่างรวดเร็ว
Segway-Ninebot มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนสำคัญเพื่อสนับสนุนความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน Segway-Ninebot ได้เดินทางไปทั่วโลกเป็นระยะทางกว่า 2.7 หมื่นล้านกิโลเมตร ซึ่งเท่ากับการเดินทางรอบเส้นศูนย์สูตรมากกว่า 680,000 รอบ ผลลัพธ์ที่เป็นหมุดหมายสำคัญนี้นำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงกว่า 1 ล้านตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 70 ล้านต้น
ตามแผนในอนาคต Segway-Ninebot ยังคงยึดมั่นในปรัชญาการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคง และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในภาคไมโครโมบิลิตี้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการบรรลุความสำเร็จครั้งสำคัญจากยอดขายถึง 13 ล้านคัน บริษัทกำลังมองหาโอกาสการเติบโตครั้งใหม่ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
Vincent Chen ประธานหน่วยธุรกิจ Micro Mobility ใน Segway-Ninebot เน้นย้ำว่า "ด้วยการยึดมั่นในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในภาค eKickScooter อัจฉริยะ เรามุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับคุณค่าของผู้ใช้เป็นอันดับแรก และเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีระดับโลกด้านการเดินทางระยะสั้นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ภารกิจของเรา คือการเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ในขณะเดียวกันก็ผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าในยานพาหนะส่วนบุคคล และสนับสนุนการเดินทางที่ลดการปล่อยคาร์บอน"
หมายเหตุ: ยอดขาย 13 ล้านคันที่กล่าวถึงในข่าวนี้อ้างอิงจากฐานข้อมูลภายในของ Segway-Ninebot ซึ่งรวมถึง Segway, Ninebot และบริษัทในเครือทั่วโลก
แสดงความคิดเห็น