ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 16 ต.ค. 2567 /PRNewswire/ -- หัวเว่ย (Huawei) ได้เข้าร่วมงาน GITEX GLOBAL 2024 ในฐานะผู้สนับสนุนระดับไดมอนด์ ในธีม "Accelerate Industrial Digitalization and Intelligence" (เร่งการยกระดับสู่ดิจิทัลและยุคอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรม) โดยได้จัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรม Industrial Digital and Intelligent Transformation Summit พร้อมเปิดตัวโซลูชันร่วมกับพันธมิตรสำหรับ 10 อุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์เรือธงใหม่ล่าสุด ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนลูกค้าในการยกระดับสู่ยุคดิจิทัลและระบบอัจฉริยะ

สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ สนับสนุนพันธมิตรในท้องถิ่น และบ่มเพาะบุคลากรในพื้นที่

Li Peng รองประธานอาวุโสระดับองค์กร และประธานฝ่ายขายและบริการ ICT ของหัวเว่ย ได้กล่าวเปิดการประชุมสุดยอดนี้ว่า "เรากำลังผสานจุดแข็งของเราในด้านเครือข่าย การจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล คลาวด์ และพลังงาน" และเสริมว่า "เรากำลังร่วมมือกับบรรดาพันธมิตรเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและอัจฉริยะรูปแบบใหม่"

คุณ Li ยังได้แชร์แนวทางของหัวเว่ย ในการนำสถาปัตยกรรมอ้างอิงที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมต่าง ๆ สู่ความอัจฉริยะนั้นมาใช้ในทางปฏิบัติ เพื่อมอบโซลูชันที่ล้ำสมัยและปรับเปลี่ยนได้ให้กับลูกค้า

"ความสำเร็จเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีพันธมิตรของเราร่วมด้วย" คุณ Li กล่าวเพิ่มเติม "เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เปิดกว้าง และเอื้อประโยชน์ร่วมกัน เรายังได้จัดตั้ง OpenLab ถึง 14 แห่งทั่วโลก เพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรโซลูชันในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วย"

คุณ Li ได้อธิบายความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อมอบโซลูชันที่ไม่ซับซ้อน ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด บริการเสริมศักยภาพทางธุรกิจแบบครบวงจร และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพให้กับพันธมิตร เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถให้บริการ SME ได้อย่างอิสระ ง่ายดาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณ Li ได้พูดสรุปโดยกล่าวถึงความพยายามของหัวเว่ย ในการช่วยพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลในท้องถิ่นและพัฒนาระบบนิเวศในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า "หัวเว่ยพร้อมและยินดีที่จะร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรรายใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับสู่ดิจิทัลและระบบอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรม และนำประโยชน์มาสู่ชีวิตและการทำงานของผู้คนทั่วโลก"

เร่งยกระดับสู่ยุคดิจิทัลและระบบอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรม ผลักดันผลิตภาพให้ก้าวกระโดด

ในระหว่างที่ขึ้นกล่าวนั้น Leo Chen รองประธานอาวุโสระดับองค์กรและประธานฝ่ายขายองค์กรของหัวเว่ย เน้นย้ำว่า AI และ 5G-A เป็นหนึ่งในเทคโนโลยียุคใหม่ที่ขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งจะผลักดันผลิตภาพให้ก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ก็นำมาซึ่งความท้าทายในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรม และระบบนิเวศด้านบุคลากร โดยหัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะใช้จุดแข็งที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรประสบความสำเร็จในยุคอัจฉริยะ

หัวเว่ยจะเดินหน้างัดใช้ขีดความสามารถแบบครบวงจรในด้านการเชื่อมต่อ การจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และคลาวด์ เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ICT ที่พร้อมรับ AI ได้

หัวเว่ยได้เผยแพร่รายงานในหัวข้อ Amplifying Industrial Digitalization & Intelligence Practice White Paper ซึ่งรวบรวมเรื่องราวความสำเร็จกว่า 100 กรณี ให้ลูกค้าใช้เป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนองค์กรของตน

หัวเว่ยมีแผนที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยกับพันธมิตร และสร้างระบบนิเวศด้านบุคลากรดิจิทัลและอัจฉริยะ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้พัฒนาดัชนีดิจิทัลโลก (Global Digital Index หรือ GDI) ร่วมกับ IDC เพื่อมอบตัวชี้วัดเชิงปริมาณสำหรับการประเมินการปรับเปลี่ยนองค์กรให้กับลูกค้า

สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ICT ยุคใหม่

David Shi รองประธานฝ่ายการตลาดและการขายโซลูชัน ICT ของหัวเว่ย ได้เน้นย้ำความสำคัญของการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ICT ที่แข็งแกร่ง เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ ประสบความสำเร็จในยุคอัจฉริยะ โดยได้ชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญ 2 ส่วนเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ได้แก่ การเร่งผลักดันความแพร่หลายของโครงสร้างพื้นฐาน ICT และเร่งสร้างรายได้ ซึ่งคุณ Shi กล่าวว่า "เราจะนำความอัจฉริยะมาสู่ทุกอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อเราทำงานร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเท่านั้น"

การเร่งผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐาน ICT เป็นที่แพร่หลายนั้น ช่วยให้พันธมิตรและลูกค้าสามารถบูรณาการ เข้าถึง และใช้งานโครงสร้างพื้นฐาน ICT ได้อย่างราบรื่น เปิดโอกาสให้พัฒนาไปตามความต้องการทางธุรกิจได้ โดยหัวเว่ยได้เสนอหลักการ 4 ข้อ เพื่อทำให้สร้างและใช้งานโครงสร้างพื้นฐาน ICT ได้ง่ายขึ้น ได้แก่ บูรณาการ เข้าถึง ใช้งาน และพัฒนาได้ง่าย สิ่งเหล่านี้เอื้อให้ใช้งานโครงสร้างพื้นฐาน ICT ได้อย่างแพร่หลายในสถานการณ์ทั่วไป เช่น ในแคมปัส เครือข่าย WAN และศูนย์ข้อมูล

หัวเว่ยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงและกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ HUAWEI eKit ซึ่งเป็นเครื่องมืออันทรงพลังเพื่อการยกระดับสู่ดิจิทัล โดยช่วยให้บูรณาการและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนการเร่งสร้างรายได้หมายถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อเร่งนวัตกรรมบริการและสร้างมูลค่า พร้อมบูรณาการเทคโนโลยีและสถานการณ์ต่าง ๆ และร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบนิเวศพันธมิตรที่เติบโต ซึ่งสนับสนุนธุรกิจองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

หัวเว่ยได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการเปิดตัวโซลูชันการยกระดับสู่ดิจิทัลและระบบอัจฉริยะครอบคลุม 10 อุตสาหกรรมด้วยกัน รวมถึงโซลูชันคลาวด์สำหรับรัฐบาล โซลูชันการพัฒนาบุคลากรด้าน ICT และอื่น ๆ

เติบโตไปด้วยกัน คว้าชัยชนะในยุคอัจฉริยะ

กรอบการทำงาน "SHAPE" ของหัวเว่ยสนับสนุนพันธมิตรใน 5 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ รักษาความเป็นผู้นำ ขัดเกลาการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับพันธมิตร ส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถของพันธมิตร ยกระดับประสบการณ์ความร่วมมือระหว่างพันธมิตร และขยายโอกาสการเติบโตของพันธมิตร

Ernest Zhang ประธานฝ่ายพันธมิตรทั่วโลก ประจำแผนกการพาณิชย์และการจัดจำหน่าย ฝ่ายขายลูกค้าองค์กรของหัวเว่ย กล่าวว่า "เราร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ยึดมั่นในหลักการ 'ผลประโยชน์ร่วมกันคือสะพาน ความซื่อสัตย์คือรากฐาน และกฎเกณฑ์คือหลักประกัน' สร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย และเติบโตไปด้วยกัน เพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการยกระดับสู่ดิจิทัลและยุคอัจฉริยะ"

คุณ Zhang กล่าวเสริมว่า "ความร่วมมือกับหัวเว่ยเปิดโอกาสในการเติบโตที่มากขึ้น ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่สูงขึ้น กำไรทางธุรกิจที่มากขึ้น และขีดความสามารถในการรองรับ AI ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม"

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://e.huawei.com/ae/events/branding/gitex